ฉันจะเป็นชาวนา
เวลาปลูกข้าว ให้ระลึกเสมอว่า กำแรกทำบุญ กำสองทำทาน กำสามทำพันธ์ุ กำสี่ทำกิน อย่าเพิ่งคิดเรื่องขาย แม่โพสพท่านเป็นเทพชั้นสูง ไม่ได้มีไว้ซื้อขาย ชาวนาคนไหนหว่านกำแรกก็เห็นแต่เงิน เห็นแต่รายได้ ทำเท่าไหร่ก็ไม่เจริญ เพราะไม่เคารพแม่ ไม่ใช่แค่แม่โพสพด้วยนะ ต้องเคารพทั้งสามแม่ คือแม่โพสพ แม่ธรณี แม่คงคา สามสิ่งนี้จำไว้ให้ขึ้นใจ ถ้าทำด้วยความเคารพ ทำเพื่อประโยชน์สุขของตนเองและเผื่อแผ่ให้คนรอบข้าง ทำนาต่อไปก็จะมีแต่ความสุขความเจริญ
วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
วันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
เวลานี้ ที่เป็นสุข
ฟังด้วยความกรุณา
เรารู้ดีว่า หากเราสามารถนั่งฟังคนผู้นั้นด้วยความเมตตากรุณา คนที่พูดก็จะได้รับการปลดปล่อยความทุกข์ในเวลาเพียงแค่ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น นั่นคือการปฏิบัติที่เรียกว่าการฟังด้วยความกรุณา
เธอฟังด้วยความตั้งใจอย่างเดียวเท่านั้น คือให้โอกาสผู้พูดได้พูดในส่ิงที่เป็นความทุกข์ทั้งหมด เพื่อให้เขามีความทุกข์น้อยลง เพราะฉะนั้น เธอต้องมีสมาธิมากพอตลอดช่วงที่เธอกำลังฟังเขา เธอฝึกที่จะตามลมหายใจเข้าออก อย่างลึกซึ้ง ฝึกปฏิบัติเพิื่อรับฟัง ในระหว่างที่เขาพูด เธออาจสังเกตได้ว่า คำพูดของเขาเต็มไปด้วยความคิดเห็นที่ผิด เต็มไปด้วยการกล่าวโทษ หากเธอปล่อยให้คำพูดที่เปี่ยมไปด้วยความขมขื่นเป็นทุกข์ สัมผัสกับความหงุดหงิด ความโกรธของเธอ เธอก็จะสูญเสียความสามารถในการฟังด้วยความกรุณา เพื่อที่จะทำให้ เธอไม่สูญเสียการฟังอย่างลึกซื้ง เธอต้องฝึกที่จะฟังด้วยจิตใจอันเมตตากรุณา เตือนตัวเองว่า การนั่งฟังเช่นนี้ เธอมีจุดประสงค์เพียงอย่างเดียงเท่านั้น คือ ให้เขามีความทุกข์น้อยลง สิ่งที่เขาพูดออกมานั้นอาจจะเต็มไปด้วยความเห็นที่ผิด แต่เราจะไม่ขัดขวางการพูดของเขา ถ้าหากว่าเราขัดขวางการพูด เราทัก หรือหยุดเขา เราก็จะไม่สามารถที่จะฝึกฟังได้อย่างลึกซื้ง มีความโกรธเกิดขึ้น และมันก็จะกลายเป็นการทะเลาะเบาะแว้งกันในที่สุด
เธออาจกล่าวกับตัวเองว่า อาจจะเป็นวันพรุ่งนี้หรือสัปดาห์หน้า ฉันอาจจะให้ข้อมูลข่าวสารเพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดนั้น แต่ไม่ใช่ในขณะนี้ การมีสติเช่นนั้นจะทำให้เธอรักษาความกรุณาให้คงอยู่ในหัวใจของเธอได้ และเธอจะไม่รู้สึกโกรธ การรับฟังอย่างลึกซึ้งเช่นนี้เป็นเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง จะบำบัดเยียวยาอีก
พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า อดีตนั้นผ่านไปแล้ว อนาคตยังมาไม่ถึง มีอยู่ชั่วขณะเดียวเท่านั้นที่เรามีชีวิตอยู่อย่างแท้จริง นั่นก็คือชั่วขณะแห่งปัจจุบัน
พวกเราหลายคนพยายามวิ่งไขว่คว้าสิ่งที่เราอยากได้อยากมีในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นปริญญาบัตร ชื่อเสียง ความมั่งคั่ง หรือความใคร่ทางกามารมณ์ เมื่อเราทำเช่นนั้นก็เหมือนกับเรายอมสละปัจจุบันขณะ เพื่อวิ่งเข้าไปหาอนาคต หลายคนวิ่งเข้าไปหาอนาคตเพื่อไขว่คว้าสิ่งที่เราอยากได้อยากมี เขาเหล่านั้นมีความทุกข์มหาศาล ทำลายล้างร่างกายและจิตใจเป็นอย่างยิ่ง
การฝึกปฏิบัตินี้ ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงเธอนำใจกลับมาสู่กายและตั้งมั่นอยู่ในปัจจุบันขณะ เธอจะรับรู้ได้ว่ามีเงื่อนไขปัจจัยมากเกินพอที่จะทำให้เธอมีความสุข เธอมีความสุขได้ณที่นี่และขณะนี้ นักปฏิบัติสามารถสร้างช่วงเวลาแห่งความสุขได้ในทุกที่ทุกขณะ เรามักจะวิ่งหนีจากความรู้สึกเจ็บปวดเสมอ เรากลบเกลื่อนความเจ็บปวดด้วยการบริโภค ฟังดนตรี อ่านนิตยสาร หรือรับประทานอาหาร บางทีมิใช่สิ่งเหล่านี้นำความสุขมาให้ แต่เป็นเพราะเราไม่ต้องการสัมผัสกับความเจ็บปวด เราจึงปกปิดมันไว้ด้วยการบริโภค
ปัญญาไม่ได้เกิดจากการครุ่นคิด แต่เกิดจากสติ ระหว่างที่ฝึกสติและสมาธินั้น เธอไม่ต้องคิดอะไรทั้งสิ้น เธอควรหยุดความคิดทั้งหมด ปัญญาเป็นผลจากการไม่คิด
วันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
ปฏิวัติยุคสมัยด้วยฟางเส้นเดียว (The One-Straw Revolution)
มนุษย์จะทำงานได้ดีที่สุด เมื่อเขาทำเพื่อความดีงามของมนุษย์ ไม่ใช่เพื่อ "ผลผลิตที่สูงขึ้น" หรือเพื่อ "เพิ่มประสิทธิภาพ" ซึ่งเป็นเป้าหมายในการดำเนินงานเกษตรกรรมแบบอุตสาหกรรม
ฟูกูโอกะกล่าวว่า "เป้าหมายสูงสุดของเกษตรกรรมไม่ใช่การเพาะปลูกพืชผล แต่คือ การบ่มเพาะความสมบูรณ์แห่งความเป็นมนุษย์" เรามิได้มีชีวิตอยู่ด้วยอาหารเพียงอย่างเดียว
ความเห็น : ช่างแตกต่างอย่างมากมายกันสิ่งที่เรียนรู้มาตลอดชีวิต แล้วเราเรียนวิศวะไปเพื่ิออะไร
การเข้าไปแทรกแซงของมนุษย์ก่อให้เกิดสิ่งที่ผิดพลาดขึ้น และถ้าความเสียหายดังกล่าวถูกปล่อยทิ้งไว้โดยไม่แก้ไข จนผลร้ายนั้นสะสมมากเข้า คนเราก็จะต้องทุ่มเทความพยายามทั้งมวลเพื่อเข้าไปแก้ไขมัน หากการแก้ไขลุล่วงไปด้วยดี พวกเขาก็จะคิดว่าวิธีการเหล่านั้นเป็นความสำเร็จอันงดงาม คนเรามักทำเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันก็เหมือนกับคนโง่ที่ปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้าน แล้วทำกระเบื้องบนหลังคาแตก พอฝนตกลงมา เพดานก็เริ่มเปื่อยและปล่อยน้ำฝนรั่วลงมา เขาก็จะรีบปีนขึ้นไปซ่อมหลังคา จากนั้นก็ดีใจที่เขาได้ค้นพบวิธีการแก้ปัญหาที่วิเศษมหัศจรรย์
นักวิทยาศาสตร์ก็เป็นเช่นเดียวกัน เขาคร่ำเคร่งกับการอ่านตำราทั้งวันทั้งคืน ซึ่งเป็นการบั่นทอนสายตาของตน และในที่สุดก็สายตาสั้น หากคุณนึกกังขาว่าอะไรหนอที่ทำให้เขาถึงกับคร่ำเคร่งศึกษาอย่างจริงจังตลอดเวลาเช่นนั้น คำตอบก็คือ เขาเป็นนักประดิษฐ์แว่นตาสำหรับคนสายตาสั้น
มนุษย์เป็นสัตว์โลกชนิดเดียวที่ต้องทำงาน และผมคิดว่านี่เป็นเรื่องน่าหัวเราะมากที่สุดในโลก สัตว์โลกชนิดอื่นหาเลี้ยงชีพด้วยการมีชีวิตอยู่ แต่มนุษย์ทำงานเหมือนคนบ้า โดยคิดว่าเขาต้องทำเช่นนั้นเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ ยิ่งงานนั้นยิ่งใหญ่เท่าไหร่ ความท้าทายมากเท่าไหร่ เขาจะคิดว่ามันยิ่งวิเศษเท่านั้น จะเป็นการดีถ้าเลิกคิดในลักษณะเช่นนั้นได้ และใช้ชีวิตอยู่อย่างง่ายๆ ชีวิตที่สะดวกสบายและเต็มไปด้วยเวลาว่าง ผมคิดว่าการใช้ชีวิตของสัตว์ในเขตร้อนที่จะออกมาในตอนเช้าและตอนเย็นเพื่อดูว่ามีอะไรกินบ้าง และมีเวลาว่างในยามบ่ายสำหรับงีบหลับ เป็นวิถีชีวิตที่ดีวิเศษ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)